08.00 น. รับคณะที่ด่านพรหมแดน จ.หนองคาย ทีมงานให้การต้อนรับ ออกเดินทาง สู่ ด่าน ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง ข้ามแม่น้ำโขงด้วย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ชมวิวของแม่น้ำโขงที่หล่อเลี้ยงไทยและลาวมายาวนาน เข้า สู่ ด่านท่านาแล้ง สู่ นครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงเอกของประเทศลาว ผ่านตัวเมืองชมความเจริญรุ่งเรือง
เข้านมัสการ พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ องค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร สร้างเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า 27 พระองค์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชทรงบูรณะขึ้นใหม่ภายหลังจากถูกพวกจีนฮ่อขุดหาสิ่งของมีค่ารื้อส่วนยอดพระธาตุลงมาถึงชั้นบัลลังก์ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกัน พระธาตุพนม ในประเทศไทย นับเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออก
ต่อด้วยเก็บภาพที่ระลึกหน้า ประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคอมมิวนิสต์ลักษณสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย ขึ้นบันไดไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์
แวะนมัสการ เจ้าแม่ศรีเมือง วัดศรีเมืองสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2106 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธราชได้ลงความเห็นให้สร้างวัดศรีเมือง ณ ที่แห่งนี้ ต่อมาถูกกองทัพสยามทำลายลงในปีพ.ศ.2371 และสร้างวัดศรีเมืองขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ.2458 ภายในวัดศรีเมืองมีพระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐานอยู่มากมายนับเป็นศาลหลักเมืองสิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมืองเวียงจันทน์
12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร
ต่อด้วยชม หอพระแก้ว คือสถานที่เคยประดิษฐาน พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เคยเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาว พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มีพระราชประสงค์ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2108 เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ได้อัญเชิญมาจากนครเชียงใหม่ อาณาจักรล้านนา และได้มีการปรับปรุงบูรณะขึ้นมาใหม่โดย เจ้าสุวรรณภูผา ปัจจุบันเป็นที่รวบรวม ศิลปะโบราณวัตถุล้ำค่า ควรค่าแก่การศึกษา จากนั้นเข้าชม หอพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เป็นที่รวบรวมเรื่องราวและวัตถุสำคัญ ประวัติศาสตร์ของประเทศลาว โดยมุ่งเน้นถึงการต่อสู้เพื่อเอกราชของชาวลาวจากนักล่าอาณานิคมต่างชาติรวมถึงกองกำลังจักรวรรดินิยม แล้วดินทางข้ามไปยัง วัดสีสะเกด เป็นวัดที่สร้างขึ้นแห่งแรกในนครเวียงจันทน์ในอดีตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช(ลาว)สถาปัตยกรรมของวัดนี้คล้ายสถาปัตยกรรมไทย เป็นพระอารามเดียวที่ไม่เคยถูกทำลายเหมือนวัดอื่นๆในเวียงจันทน์ของพระเจ้าพระยาจักรีของไทยเมื่อครั้งพระเจ้าอนุวงศ์กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ล้านช้างเวียงจันทน์ ซึ่งอยู่ในระหว่างศึกสงครามหลายยุคหลายสมัยนั้น แวะ ตลาดเช้า ให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกชมสินค้านานาชนิด ของฝากของที่ระลึกลาว
16.00 น. ได้เวลาเดินทางกลับข้าม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว เลือกซื้อสินค้าที่ร้านปลอดภาษี และผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านสู่ จ.หนองคาย ส่งคณะเดินทางกลับพร้อมความประทับใจจากทีมงาน
…………………………………………………………….
*โปรแกรมอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของเวลา เราจะถือเอาผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
* การไม่รับประทานอาหารบางมื้อไม่เที่ยวตามรายการ หรือถูกปฏิเสธการเข้าเมืองไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆทั้งสิ้น
ลูกค้าไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้ เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย
สิ่งที่ควรเตรียมไป - สัมภาระส่วนตัว เช่น เสื้อแขนยาว, ร่ม, รองเท้าสวมใส่สบาย, หมวก, ไฟฉาย, ยารักษาโรค รวมทั้งคนรู้ใจ
อัตราค่าบริการ รับ – ส่ง อ.เมืองหนองคาย
|
จำนวน
| 6-7ท่าน
| 8-10ท่าน
|
ราคา
| 2,500
| 1,900 |
อัตรานี้รวม
- ค่ารถยนต์ รับ-ส่ง อ.เมืองหนองคาย
- ค่าทำหนังสือผ่านแดน และค่าธรรมเนียมพิธีการพรหมข้ามพรหมแดนไทย-ลาว
- ค่าอาหารจำนวน 1 มื้อ
- ค่ามัคคุเทศก์ลาว ค่าเข้าชมสถานที่ และพนักงานบริการ
- บริการน้ำดื่ม น้ำอัดลม ผ้าเย็น อาหารว่าง ยาปฐมพยาบาล ประกันการเดินทางอุบัติเหตุ ท่านละ 1,000,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
อัตรานี้ไม่รวม- ค่า VAT ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
- ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ และค่าใช้จ่ายส่วนตัว
- ค่าทิปไกด์ พนักงาน และพนักงานขับรถเป็นน้ำใจ
เตรียมเดินทางหนังสือเดินทาง (PASS PORT) หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
เด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ที่ยังไม่มีบัตรประชาชน ใช้สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมรูปถ่าย 2 รูป 2 นิ้ว
เงินมัดจำล่วงหน้า ท่านละ 1,000 บาท ก่อนวันเดินทาง 20 วัน