โปรแกรมทัวร์ กัมพูชา นครวัด นครธม 3วัน2คืน ไปรถกลับรถ
วันแรก : อ.อรัญประเทศ ด่านปอยเปต/ด่านช่องสะง่ำ ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -เมืองเสียมเรียบ-องค์เจค องค์จอม-โตนเลสาบ (- /L/D)
06.00 น. คณะเดินทางถึง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว/ด่านช่องสะง่ำ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่อุ้มรักทัวร์ ให้การต้อนรับ
จากนั้น เดินทางเข้าสู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ด่านปอยเปต หรือด่านช่องสะง่ำ หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้วนำท่านออกเดินทางผ่านเมืองศรีโสภณ สู่ตัวเมืองเสียมเรียบ ระยะทาง 152 กม.
12.00 น. คณะเดินทางถึงเมืองเสียมเรียบ รับประทานอาหารเที่ยงแบบบุบเฟ่ต์ ณ ภัตตาคาร เสียมราฐ ชื่อท้องถิ่นคือ เสียมเรียบ จังหวัดทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศกัมพูชา เป็นเมืองประวัติศาสตร์ชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศกัมพูชา เพราะปัจจุบัน เสียมราฐ กลายเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจ และตั้งเป้าหมายว่าต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิตให้ได้ ทำเลดีตั้งอยู่ริมทะเลสาบเขมร ซึ่งเมืองเสียมราฐแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของ ‘นครวัด’ สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พื้นที่รวมกันกว่า 1.6 ล้านตารางเมตร และเป็นเทวสถานที่ถือว่าเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมร นครวัดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ ‘เมืองพระนคร’
13.00 น. นำเดินทางสู่ โตนเลสาบ ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของประเทศกัมพูชา ทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากแม่น้ำโขง ซึ่งแม่น้ำโขงไหลผ่านมีความยาวถึง 500 กม.ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดของประเทศกัมพูชา ได้แก่ กำปงธม กำปงชนัง โพธิสัตว์ พระตะบอง และเสียมราฐ และทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นที่ค้นพบหนึ่งในราชกกุธภัณฑ์พระแสงขรรค์ชัยศรี อีกด้วย โตเลสาบ เป็นทะเลสาบที่มีปลาชุกชุมมากแห่งหนึ่งประมาณ 300 กว่าชนิด จึงมีชาวกัมพูชาจำนวนมากที่ประกอบอาชีพประมงในบริเวณทะเลสาบแห่งนี้ ตลอดสองฝากฝั่งชมหมู่บ้านชาวประมงและวิธีชีวิตของชาวประมง ซึ่งเป็นบ้านแบบเรือนแพ มีชาวเขมร เวียดนาม และจาม อพยพมาอาศัยอยู่บริเวณแห่งนี้ บรรยากาศเวิ้งว้างเหมือนอยู่ในทะเลกว้าง เก็บภาพแห่งความประทับใจ ออกเดินทางสู่เมืองเสียมเรียบ
15.30น.เดินทางถึงเมืองเสียมเรียบ นำคณะเข้าซื้อตั๋วล่วงหน้าเพื่อเข้าชมกลุ่มปราสาทต่างๆของวันพรุ่งนี้
จากนั้น นำคณะไป นมัสการพระประจำเมือง คือ องค์เจ็ค องค์จอม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเขมรให้ความเคารพนับถือเปรียบเสมือนศาลหลักเมืองมีค้างคาวแม่ไก่คอยอาศัยบารมีหากินอยู่บริเวณนั้นจำนวนมาก ตามประวัติเล่าว่าองค์เจ็กกับองค์จอมเป็นพี่น้องกันและมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก วันหนึ่งหลังจากที่ไปทำบุญมากลับบ้านก็นอนหลับแต่กลับไม่พื้นขึ้นมาอีกบิดาและมารดาเกิดความเสียใจและอาลัยในตัวของลูกสาวทั้งสองคนเป็นอย่างมาก จึงได้ก่อสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาสององค์ องค์ใหญ่นามว่าองค์เจก และองค์เล็กนามว่าองค์จอมและมีความศักดิ์สิทธิ์มากเปรียบเสมือนเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของเมืองเสียมราฐ มาก 18.30 น.รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เข้าที่พักโรงแรมอังกอร์ฮอลิเดย์ 4ดาว (หรือเทียบเท่า) พักผ่อนตามอัธยาศัย วันที่สอง : ปราสาทบายน-ปราสาทตาพรหม-ปราสาทนครวัด-ปราสาทบันทายศรี (B/L/D)
เช้า อรุณสวัสดิ์ยามเช้า รับประทางอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารออกเดินทางสู่ ปราสาทบันทายศรี อัญมณีเพชร น้ำเอกทางลวดลาย เป็นปราสาทหินที่ถือได้ว่างดงามที่สุดใน ประเทศกัมพูชา เนื้อหินทรายสีชมพูสลักลาย มีความกลมกลืนอย่างสมบูรณ์ คมบางชัดเจนเป็นงานประณีตที่สุดของงานแกะสลักหินทราย ได้รับการขนานนามว่าเป็น รัตนะแห่งกำพูชา เป็นปราสาทแห่งเดียวที่สร้างเสร็จแล้วกว่า 1000 ปี แต่ลวดลายก็ยังมีความคมชัด เหมือนกับสร้างเสร็จใหม่ ๆ ปราสาทบันทายศรี หรือเรียกตามสำเนียงเขมรว่า บันเตียไสร หมายถึง ปราสาทสตรีหรือป้อมสตรี อยู่ห่างจากตัวเมืองเสียมราฐไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 30 กิโลเมตร ใกล้กับแม่น้ำเสียมราฐ ในบริเวณที่เรียกว่า อิศวรปุระ หรือเมืองของพระอิศวร
แล้วเข้าชม ปราสาทตาพรหม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1729 เป็นปราสาทหินในยุคท้ายๆ ของอาณาจักรเขมร ปราสาทเหล่านี้ถือว่าเป็นสถานที่ของพระพุทธศาสนาที่สมัยนั้นมีความเจริญ รุ่งเรืองอย่างมาก เพราะสมัยนั้นกษัตริย์ที่สนับสนุนให้มีการสร้างปราสาทนี้เป็น วัดในศาสนาพุทธ การดูแลปราสาทต่างๆนั้นรัฐบาลได้ทำการตัดต้นไม้ออกจากปราสาทอื่นๆ เพราะกลัวว่าประสาทจะล้มลงหากต้นไม้ใหญ่โตมากๆ แต่สำหรับปราสาทตาพรมนั้นรัฐบาลมีแนวคิดที่จะคงต้นไม้ไว้เหมือนโบราณที่มีต้นไม้ขึ้นบนปราสาทแทบทุกปราสาทจึงกลายเป็นลักษณะเด่นของปราสาทตาพรหมคือมีต้น สะปงใหญ่ขึ้นคลุมตัวปราสาทเป็นจำนวนมาก ดูลึกลับเหมือนอยู่ในเขาวงกต ปราสาทตาพรมนั้น ในรัชกาลที่กษัตริย์นิยมฮินดูได้อำนาจคืนจากกษัตริย์นับถือพุทธ จึงให้มีการทำลาย และมีร่องรอยการทำลายมากที่สุด เพราะความต่างของการนับถือศาสนา ปราสาทตาพรมจึงไม่หลงเหลือศิลปะให้เห็นมากนัก เนื่องจากใช้ถ่ายทำหนังหลายเรื่อง เช่น ทูมไรเดอร์ เจมส์บอนด์ ฯลฯ นักท่องเที่ยวจึงเข้าคิวเพื่อถ่ายรูปกับรากไม้มากกว่าซาบซึ้งในศิลปกรรม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ชมกลุ่มปราสาทนครธม เริ่มจาก สะพานนาคราช ซึ่งด้านหนึ่งเป็นศิลาสลักเป็นรูปเทวดากำลัง ฉุดนาค ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นรูปอสูรซึ่งมีขนาดใหญ่มากกว่า 5 เท่าคนจริง นำชม ประตูเมือง ที่มียอดเป็นรูปพระโพธิสัตว์หันพระพักตร์ไปทั้ง 4ทิศที่วิจิตรพิสดารกว่าในประตูเมืองในประเทศต่างๆ
จากนั้นชม ปราสาทบายน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอังกอร์ธมหรือนครธม เป็นสุดยอดของปราสาทเขมรคือ ยอดปราสาททุกหลังจะแกะเป็นเทวพักตร์ 4 หน้า หันออกไปทอดพระเนตรความเป็นไปและทุกข์สุขของประชาชน จากนั้น เดินทางผ่านชม บัลลังก์ช้าง ฐานของพลับพลา สร้างด้วยหินจำหลักและครุฑยาวประมาณ 300 เมตร เป็นสถานที่กษัตริย์นั่งทอดพระเนตรการสวนสนาม การซ้อมรบ
เข้าชมความยิ่งใหญ่อลังการของ เมืองมรดกโลก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก “นครวัด” ที่เปรียบเสมือนวิมานของเทพเจ้าสูงสุดที่บรรจงชะลอลงมาประดิษฐานไว้ในโลกมนุษย์ นั่นคือ ปราสาทนครวัด ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.1650-1720 โดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในศาสนาฮินดูเพื่อบูชาพระวิษณุเทพ สุดยอดปราสาทหินใหญ่โตกว่าสถานใดๆทั้งหมด ใช้หินล้วนๆเนรมิตรูปทรง ที่สุดแห่งปราสาทหินทั้งหลาย โดยถวายเป็นพุทธบูชา ชมรูปแกะสลักนางอัปสรนับหมื่นองค์ ชมภาพแกะสลักนูนต่ำ การกวนเกษียรสมุทรซึ่งเป็นพิธีกรรมโบราณอันศักดิ์สิทธิ์น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ท่านจะได้ชมภาพการยกกองทัพของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 โดยมีภาพกองทัพของเสียมกุก ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเราชาวไทยปรากฏอยู่ด้วยเราจะใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายวันนี้ชื่นชมกับความมหัศจรรย์ของคนโบราณที่สร้างสรรค์สถาปัตยกรรมอันวิจิตรที่อาจเปรียบเทียบกับบุโรพุทโธของชวาและปิรามิดของอียิปต์ได้อย่างไม่น้อยหน้ากัน จนท่านอาจรู้สึกว่าเข็มนาฬิกาของท่านหมุนไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมชมการแสดงพื้นเมืองอันลือชื่อชุด ระบำอัปสรา ที่ตระการตาในแบบศิลปะขะแมร์ ด้วยเครื่องประดับศีรษะและท่วงท่าร่ายรำ อันเป็นเอกลักษณ์ที่ถอดแบบมาจากรูปสลักหินนางอัปสราในปราสาทนครวัด ประหนึ่งทำให้นางอัปสราซึ่งเป็นรูปสลักหินนับพันปีมีชีวิตขึ้นมาผ่านการแสดงนี้ที่พักโรงแรมอังกอร์ฮอลิเดย์ (ระดับ 4 ดาว) หรือเทียบเท่า
วันที่สาม : เมืองเสียมเรียบ-วัดพรหมรัตน์-ตลาดซาจ๊ะ-ด่านปอยเปต-อรัญประเทศ/ด่านช่องสะง่ำ จ.ศรีสะเกษ (B/L/-)
เช้า อรุณสวัสดิ์ยามเช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม เช็คเอ้าท์จากโรงแรม
08.00 น. จากนั้น ออกเดินทางสู่ วัดใหม่(ทุ่งสังหาร)เสียมเรียบเดิม วัดแห่งนี้เคยเป็นพื้นที่สำหรับทิ้งศพผู้ที่เสียชีวิตมากมายในครั้งที่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสมัยเขมรแดงปกครอง จนต่อมามีการสร้างวัดขึ้นคร่อมทับพื้นที่เดิม และนำเอาโครงกระดูกและกะโหลกศีรษะของผู้ที่เสียชีวิตมารวบรวมจัดแสดงในตู้กระจกภายในบริเวณวัดแห่งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานถึงความโหดร้ายและการต่อสู้ดิ้นรนที่จะมีชีวิตรอด ของสงครามเขมรแดงในอดีต ในระหว่างปี พ.ศ.2518-2522 รวมระยะเวลาเกือบ5 ปี ที่เขมรแดงปกครองประเทศกัมพูชา
09.00 น. เข้าช้อบปิ้งที่ ตลาดซาจ๊ะ เป็นตลาดใหญ่ใจกลางเมืองเสียบเรียบ มีไม้แกะสลัก เพชร พลอย เสื้อผ้าของที่ระลึกมากมายเป็นของฝากของคนที่บ้าน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้น ออกเดินทางได้เวลาแล้วเดินทางสู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ หรืออรัญฯ
15.00 น. นำท่านข้ามชายแดนไทย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว ส่งคณะออกเดินทางกลับพร้อมความประทับใจจากทีมงาน
*โปรแกรมอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของเวลา เราจะถือเอาผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
*การไม่รับประทานอาหารบางมื้อไม่เที่ยวตามรายการ หรือถูกปฏิเสธการเข้าเมืองไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆทั้งสิ้นลูกค้าไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้ เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย
*การเดินทางท่องเที่ยวเส้นนี้ต้องนำบัตรประชาชนติดตัวไปด้วย เพราะมีการตรวจการเข้าออกทุกครั้ง
สิ่งที่ควรเตรียมไป - สัมภาระส่วนตัว เช่น เสื้อแขนยาว,ร่ม,ครีมกันแดด,หมวก,ยารักษาโรคประจำตัว,ของใช้ส่วนตัว,รองเท้าสวมใส่สบาย รวมทั้งคนรู้ใจ
อัตราค่าบริการ รับ-ส่ง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว,ด่านช่องจอม จ.สุรินทร์,ด่านช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ (ไม่รวมVip)
|
โรงแรม/จำนวน | 4-5ท่าน
| 6-8ท่าน | 9-10ท่าน | 11-15ท่าน | พักเดี่ยว |
4ดาว | 11,000 รถตู้เกาหลี | 9,800 รถตู้เกาหลี
| 9,500 มินิบัส | 8,900 มินิบัส | 1,500 |
*เด็กอายุ 3-8ขวบ ไม่ใช้เตียง ลดลง 30%
|
- ค่ารถยนต์นำเที่ยวในกัมพูชาตลอดรายการ
- ค่าโรงแรมที่พัก 3+ 2 คืน พร้อมอาหารตามที่ระบุในรายการ
- ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ที่ระบุอยู่ในรายการ
- มัคคุเทศก์ ท้องถิ่นซึ่งพูดภาษาไทยที่จะคอยแนะนำสถานที่
- ค่าประกันภัยการเดินทาง 1,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรรม์ธรรม)
- ราคาค่าบริการนี้ไม่รวม
- ค่ารถยนต์รับ-ส่ง กทม. - หน้าด่าน
- ค่าธรรมเนียมการผ่านแบบวีไอพีด่านประเทศกัมพูชา 200 บาท
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าเครื่องดื่ม ค่าซักรีด ฯลฯ
- ค่าทิปไกด์ ทิปหัวหน้าทัวร์ และคนขับรถเก็บวันละ100บาท=300บาท/ท่าน
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีต้องการใบเสร็จ)เตรียมเดินทาง - หนังสือเดินทาง (PASSPORT) อายุเหลือก่อนเดินทาง 6 เดือน และมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า ส่งก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 10 วัน -เงินมัดจำล่วงหน้า 20% ส่วนที่เหลือชำระก่อนวันเดินทาง 7 วันนาย ณรงค์ฤทธิ์ จันทร์ทรง (คุณอุ้ม)Tel. 084-513-5577, 062-469-9889,083-734-7555,045-476-219 เลขที่ 476 ม.13 ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ. อุบลราชธานี 34350Email:aumlucktour@hotmail.co.th www.aumlucktour.net