Last updated: 30 พ.ค. 2565 | 6813 จำนวนผู้เข้าชม |
โปรแกรมทัวร์ ลาวใต้+เวียตนามใต้ โปรแกรมครบ 7วัน6คืน ไปรถกลับรถ
วันแรก : อุบลราชธานี - จำปาสัก - อัตตะปือ – เปล์กู
07.00น. รับคณะที่ด่านพรมแดนช่องเม็กอุบลราชธานี ผ่านพิธีการข้ามแดนเข้าสู่ลาวแขวงจำปาสัก ข้ามแม่น้ำโขงผ่านเมืองปากเซ แล้วออกเดินทางขึ้นเขาเข้าเขตหนาวเมืองปากซองรายล้อมด้วยแมกไม้ ไร่ชากาแฟมีให้เห็นตลอดสองข้างทางผ่านแขวงเซกอง สู่แขวงอัตตะปือ
12.00น. รับประทานอาหารเที่ยงที่แขวงอัตะปือ แล้วออกเดินทางต่อ ขึ้นเขาสายภูหลวงทิวเขาสลับซับซ้อนป่าดงดิบรายรอบถนนเส้นทางใหม่ สวยกว่าทุกเส้นทางที่เชื่อมต่อลาว-เวียดนามถึง ด่านพูเกือ ผ่านพิธีการข้ามแดนเข้าสู่เวียดนามที่ ด่านโบวี เข้าเมือง กอนตูม แวะชม พิพิธภัณฑ์ดั๊กโต บ้านหลังคาสูงโดดเด่น แล้วเลยไปชม โบสถ์ไม้สัก ขนาดใหญ่ที่ทำด้วยไม้สักทั้งหลัง ก่อนออกเดินทางเดินทางมุ่งหน้าสู่เมือง เปล์กู
19.00น. ถึง เมืองเปล์กู เมืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ตอนเหนือ รับประทานอาหารเย็น เข้าที่พัก โรงแรม ฮองอันยาลาย (4 ดาว)
วันที่สอง : เมืองเปลย์กู - บานเมทวด – เมืองยาจาง
07.00น. อรุณสวัสดิตอนเช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม แล้วออกเดินทางสู่เมืองยาจาง ทะลเลียบชายทะเลตามเส้นทางหมายเลข 1 ทิวทัศน์สวยงามมาก
เที่ยง คณะเดินทางถึงเมืองยาจาง รับประทานอาหารเที่ยง
บ่าย ลงเรือล่องเรือ ชม อ่าวยาจาง ชมความสวยงามของทะเลที่โอบล้อมด้วยเมืองยาจาง โดยมีภูเขาเป็น ฉากหลังแล้วยังได้ชมเกาะน้อยใหญ่ โดยเฉพาะเกาะวันพิสรัลซึ่งเป็นไข่มุกแห่งเวียดนามที่ใช้เป็นสถานที่ประกวดนางงามจักรวาล เผยแพร่อวดสายตาชาวโลก มีกระเช้าเชื่อมจากฝั่งสู่เกาะ มองเห็นพิพิธภัณฑ์ปลาที่ออกแบบเป็นเรือสำเภาโบราณสวยงามแปลกตา ชม วัดพูนากา ตั้งอยู่บนทำเลที่ สวยงาม เนินเขาริมฝั่งแม่น้ำบรรจบกับทะเลมีสะพานคู่ขนานที่เชื่อมต่อตัวเมืองทัศนียภาพที่สวยงามเมื่อมองจากวัดพูนากานี้ วัดพูนากา เป็นวัดของอาณาจักรจามปาที่เก่าแก่ สร้างด้วยอิฐแดงโดดเด่นตามศิลปะจามปาที่หาชมได้ยาก ต่อด้วยเข้า วัดลองเซิน ตั้งอยู่บนเนินเขามังกรของเมืองยาจาง พระพุทธหินอ่อนองค์ใหญ่โดดเด่นบนยอดเขามองเห็นแต่ไกล ชาวไทยมีส่วนร่วมในการบูรณะวัดลองเซินนี้เป็นอย่างมาก แม้แต่พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนขนาดใหญ่ที่นี่มีการแกะสลักภาษาไทยอยู่ใต้ฐาน ต้องเดินขึ้นบันได 152 ขั้น เพื่อนมัสการพระพุทธรูปองค์ใหญ่บนยอดเขาที่ประทับบนฐานดอกบัว จากจุดนี้สามารถมองเห็นสภาพเมืองยาจางได้ทั่ว เดินชายทะเลหาดยาจาง สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้เวียดนาม หาดทรายที่ขาวสะอาดเหยียดกว่า 10 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของชาวเวียดนาม
ตลาดยาจาง ถือเป็นตลาดไข่มุกแห่งทะเลจีนใต้ ไข่มุกที่ตลาดนาตรังเป็นไข่มุกแท้ที่มีความแวววาวเปล่งประกายสวยงามยิ่งนัก
เย็น รับประทานอาหารทะเลสดๆ แล้วเข้าที่พักโรงแรม
วันที่สาม : เมืองยาจาง – เมืองฟานเทียต มุยเน่ ทะเลทรายขาว ทะเลทรายแดง
06.00น. อรุณสวัสดิตินเช้า รับประทานอาหารเช้า แล้วมุ่งหน้าสู่ มุยเน่ เมืองฟานเทียต เมืองฟานเทียต เป็นเมืองชายทะเลตากอากาศและแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและมีชื่อเสียงทางภาคใต้ของเวียดนาม ระหว่างการเดินทางผ่านชมธรรมชาติและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเวียดนามถึงฟานเทียต นำท่านสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ณ ท่าเรือมุยเน่ ที่อบอวนไปด้วยบรรยากาศแบบชาวประมงเวียดนามแท้ๆซึ่งกลับเข้าฝั่งหลังออกหาปลาในยามค่ำคืน นำท่านชมและสัมผัสความงดงามของ ทะเลทรายแดง ซึ่งเป็นเนินทรายกว้าง ใหญ่สีชมพูที่มีชื่อเสียงมากของเมืองมุยเน่ ทะเลทรายแดงอยู่ริมทะเลห่างจากตัวเมืองมุยเน่ประมาณ 5 กม. บริเวณด้านหน้าทะเลที่ติดกับชายฝั่งทะเลมีร้านอาหาร และตอนเย็นๆ จะมีเด็กๆ นำแผ่นพลาสติกให้นักท่องเที่ยวได้เล่นสไลด์บนเนินทราย จากนั้นเราไปเดินลุยน้ำกันที่ ซุยเตียน หรือ Fairly Stream เป็นธารน้ำสีแดง ขอแนะนำว่าหากใครจะมาเที่ยวที่นี่ให้ใส่ร้องเท้าแตะ จะสะดวกที่สุด โดยการเดินทวนลำธารขึ้นไปเรื่อย ๆ เหยียบทรายในลำคลองชวนให้นึกถึงสมัยเด็กๆ ซุยเตียน เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ ที่ ระยะเวลาผ่านมานานมากจึงเกิดเป็นร่องน้ำและเกิดรอยกัดเซาะที่มีสีสันจากทรายที่สวยงาม
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง จากนั้นนำทุกท่านสู่ ทะเลทรายขาว ซึ่งอยู่ห่างจากทะเลทรายแดง ประมาณ 15 กม. โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ซึ่งทะเลทรายขาวเป็นเนินทรายสีขาวที่มีแหล่งน้ำจืดหรือโอเอซิสอยู่ใกล้ๆ เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยม ไปถ่ายรูป และเป็นจุดหนึ่งที่ถ่ายภาพยนตร์ไทยเรื่อง “เราสอง สามคน” ไม่ไกลกันมีแหล่งน้ำจืด (โอเอซิส) สำหรับให้นักท่องเที่ยวใช้พักผ่อน ถ่ายรูป และชมวิว ที่ท่านจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมหลากหลายไม่ว่าจะเป็น เช่ารถจี๊ป หรือรถ ATV ตะลุยเนินทราย หรือสนุกสนานกับการเล่นแซนด์ดูนลื่นไถลจากเนินทรายสูงกว่า 40 เมตร (ค่าใช้จ่ายในกิจกรรมต่างๆ ไม่รวมในค่าบริการทัวร์)
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร Vietnam home Restaurant หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก NOVELA RESORT เชิญท่านพักผ่อนหรือท่องราตรีตามอัธยาศัย
วันที่สี่ : มุนเน่ – เมืองโฮจิมินห์ซิสตี้
06.00น. อรุณสวัสดิตินเช้า รับประทานอาหารเช้า แล้วออกเดินทางสู่ เมืองโฮจิมินห์ เมืองหลวงแห่งเวียตนามใต้หรือชื่อเดิม ไซ่ง่อน เดิมเป็นเมืองหลวงของเวียดนามใต้ ภายหลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1975 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นนครโฮจิมินห์ เพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ เป็นเมืองที่มีอายุกว่า 300 ปี เต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และได้รับการขนานนามว่า "ไข่มุกแห่งตะวันออกไกล" อยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม พื้นที่ทั้งประเทศ เป็นเมืองใหญ่ที่สองของประเทศรองจากกรุงฮานอย โฮจิมินห์เป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมตอนใต้ของเวียดนาม และเป็นประตูสำคัญแห่งหนึ่งของเอเชีย ในตัวเมืองมีอาคารสูงมากมาย มีข้อความหรือเครื่องหมายการค้าจากต่างแดน มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ เรียงรายตลอดแนวของตัวเมือง ปัจจุบันนครโฮจิมินห์ไม่เพียงเป็นศูนย์กลางด้านการค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวของประเทศ
เที่ยง คณะเดินทางถึงเมืองโฮจิมินห์ รับประทานอาหารเที่ยง หลังอาหารนำท่านเดินทางท่านชม ทำเนียบอิสรภาพ เคยเป็นทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีเวียดนามใต้ และทำเนียบของผู้ว่าการฝรั่งเศสที่เรียกว่าทำเนียบโนโรโดม ถูกระเบิดทำลายใน พ.ศ. 2506 แล้วได้มีการสร้างอาคารขึ้นใหม่ให้ชื่อว่า ทำเนียบอิสรภาพ ออกแบบโดยโงเวียดทู ทุกวันนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมได้ ชั้นล่างเป็นห้องจัดเลี้ยง ห้องโถงใหญ่ที่รัฐบาลเวียดนามใต้ประกาศยอมแพ้ ชั้นสองเป็นห้องรับรองของประธานาธิบดีตรันวันเฮือง ห้องพักของประธานนาธิบดีเหงียนวันเทียว ห้องอาหาร ห้องสวดมนต์คาทอลิก ชั้นสามเป็นห้องรับรองของภริยาประธานาธิบดี ชั้นสี่เป็นห้องฉายภาพยนต์ส่วนตัวและลานจอดเฮลิคอบเตอร์ซึ่งมองลงไปข้างล่างจะเห็นทิวทัศน์งดงามของถนนเลหย่วนได้ชัดเจน จากนั้นชม เจดีย์หวิงเงียม เจดียเก่าแก่และคู่บ้านคู่เมืองของชาวเวียดนาม เดินทางผ่าน ย่านไชน่าทาวน์ ชมชีวิตความเป็นอยู่ ของชาวจีนในเวียดนาม ชมวัดเทียนหาว วัดจีนในเขตไชน่าทาวน์ที่ สร้างอุทิศให้กับแม่พระผู้ครองชาวเรือหรือเทพีเทียนหาว โดยชาวพุทธกวางตุง้ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ชาวเวียดนามเชื่อว่าเทพองค์คนมีก้อนเมฆเป็นพาหนะเพื่อช่วยคุ้มครองผู้คนให้รอดพ้นจากอันตรายจากมหาสมุทรทั้งปวง ต่อด้วยชม โบสถ์นอร์ทเทรอดาม โบสถ์หลังคาสูงที่สร้างในสมัยที่เวียดนามยังอยู่ในอาณานิคมของ ฝรั่งเศส โดยสร้างเพื่อให้ เป็นโบสถ์ประจำเมืองไซ่ง่อนและได้สร้างตามต้นแบบของประเทศฝรั่งเศสนำท่าน ชม ไปรษณีย์กลาง ซึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรตระการตา ชม อนุสาวรีย์ ท่านประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ด้านหน้าศาลากลางก่อสร้างด้วยสถาปัตยากรรมแบบฝรั่งเศส จากนั้น อิสระท่านช้อปปิ้ง ตลาดเบนถัน มีสินค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหารเย็น บนเรือนั่งชมบรรยากาศยามค่ำคืนของแม่น้ำไซง่อน พร้อมชมการแสดงแสงสีเสียงสวยงามประทับใจ เข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ห้า : เมืองโฮจิมินห์ – เมืองดาลัท
06.00น. อรุณสวัสดิตินเช้า รับประทานอาหารเช้า แล้วออกเดินทางสู่ เมืองดาลัท
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยงระหว่างทางที่ น้ำตก Dambri ต่อด้วยชม น้ำตก Dambri ซึ่งสูงถึง 60 เมตรเป็น น้ำตกใหญ่ที่สุดในจังหวัด จากนั้นออกเดินทางต่อ
15.00น. คณะเดินทางถึง เมืองดาลัท ที่อยู่ในจังหวัดลามดง ดาลัท เป็นอีกหนึ่งเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงอันและโรแมนติคที่สุดและของเวียดนามเนื่องจากตั้งอยู่บนที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,500 เมตร ทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีแม้กระทั้งในฤดูร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15-25 องศาเซสเซียส แวดล้อมด้วยขุนเขา ไร่กาแฟ และสวนดอกไม้ อาคารบ้านเรือนต่างๆปลูกสร้างรูปแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส เนื่องจากในสมัยอาณานิคม Alexdra Yersin ได้ค้นพบเมืองดาลัท และเห็นว่าบรรยากาศค่อนข้างดี ทางฝรั่งเศสจึงได้เข้ามาพัฒนาและสร้างเมืองดาลัท เพื่อให้เป็นเมืองตากอากาศสำหรับชาวฝรั่งเศส ต่อด้วยชม พระราชวังฤดูร้อนพระราชวังตากอากาศของกษัตริย์เบ๋าได๋ จักรพรรดิ์องค์สุดท้ายของเวียดนาม ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นพระราชวังสุดท้าย ที่สร้างขึ้นในสมัยเรืองอำนาจของฝรั่งเศส ก่อนที่จะเกิดสงครามเวียดนาม แล้วทำให้จักรพรรดิ์บ๋าวได๋ต้องลี้ภัยไปอยู่ฝรั่งเศส แล้วไม่ได้กลับมาเหยียบผืนแผ่นดินบ้านเกิดอีกเลย จากนั่นนำท่านเดินทางสู่ย่าน ช้อปปิ้งตลาดไนท์บาร์ซ่า ของเมืองดาลัทให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้า นานาชนิด ตามอัธยาศัย รับประทานอาหารเย็น เข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่หก เมืองดาลัท สวนดอกไม้เมืองหนาว พระราชวังเบ๋าได๋ นั่งกระเช้าไฟฟ้า วัดจุ๊บหลำ
06.00น. อรุณสวัสดิตินเช้า รับประทานอาหารเช้า แล้วชม สวนดอกไม้เมืองหนาว ของเมืองดาลัท สัมผัสดอกไม้เมืองหนาวที่อวดโฉม รูปทรงและสีสันแปลกตา ซึ่งเป็นสายพันธ์ มาจากยุโรปสัมผัสกับบรรยากาศที่แสนโรแมนติก แล้วพาคณะเดินทางสู่ สถานีกระเช้าไฟฟ้าเคเบิลคาร์ กระเช้าไฟฟ้าแห่งนี้เป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ทันสมัยที่สุดของประเทศเวียดนาม และมีความปลอดภัยสูงที่สุดท่านจะได้ ชมวิว ของเมืองดาลัท ที่มองเห็นได้ทั้งเมือง ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสูง 1,500 เมตร ท่ามกลางป่าสน บ้านเรือนและสวนดอกไม้ ชมเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “ปารีสแห่งอินโดจีน” เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบตะวันตกมีโบสถ์คริสต์กระจายอยู่ทั่วเมืองจากนั้นนำท่านสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ วัดจุ๊บหลำ วัดพุทธนิกายเซนที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาอันสวยงามเหนือทะเลสาบเตวียนลาม ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ที่สวยงาม
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง แล้วออกเดินทางสู่ เมืองบวนแมทวด เมืองกอนตูม เมืองชายแดนเวียดนาม-สปป.ลาว ที่แขวงอัตะปือ
เย็น รับประทานอาหารเย็น เข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่เจ็ด : เมืองกอนตูม ชายแดนเวียตนาม-ลาว –แขวงอัตะปือ-แขวงเซกอง น้ำตกเซกะตาม-เมืองปากเซ-ด่านพรมแดนลาว-ไทย จ.อุบลราชธานี
06.00น. อรุณสวัสดิตินเช้า รับประทานอาหารเช้า แล้วออกเดินทางสู่ชายแดนโบอีเข้าด่านลาวที่ด่านพูเกือขึ้นภูเขาสูงสลับซับซ้อนอีกครั้ง ผ่านแขวงอัตตะปือเข้าสู่แขวงเซกอง
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง แล้วออกเดินทางต่อผ่านเมืองปากเซ สู่ด่านพรมแดนลาว-ไทย
16.00น. เดินทางถึง บริเวณด่านพรมแดน ซื้อของฝาก สินค้าอินโดจีน สินค้าปลอดภาษี มากมาย ได้เวลา ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ออกเดินทางกลับสู่ จ.อุบลราชธานี กลับพร้อมความประทับใจจากทีมงาน
*โปรแกรมอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของเวลา เราจะถือเอาผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
*การไม่รับประทานอาหารบางมื้อไม่เที่ยวตามรายการ หรือถูกปฏิเสธการเข้าเมืองไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆทั้งสิ้นลูกค้าไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้ เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย
สิ่งที่ควรเตรียมไป - สัมภาระส่วนตัว เช่น เสื้อแขนยาว,ร่ม,หมวก,ครีมกันแดด,ยารักษาโรคประจำตัว,ของใช้ส่วนตัว, รองเท้าสวมใส่สบาย รวมทั้งคนรู้ใจ
โรงแรม/จำนวน | 8-10 | 11-16 | 17-20 | 21-25 | 26-30 | 31-35 | 36-40 | พักเดี่ยว |
3ดาว | ||||||||
4ดาว |
อัตราค่าบริการนี้รวม
-ค่าทำหนังสือผ่านแดนและค่าธรรมเนียมพิธีการข้ามพรมแดนไทย–ลาว-เวียตนาม
-ค่ารถยนต์นำเที่ยวในลาวตลอดรายการ
-ค่าที่พักระดับ 6 คืน พักห้องละ 2-3 ท่าน
-ค่าอาหาร จำนวน 20 มื้อ
-ค่ามัคคุเทศก์ลาว และพนักงานบริการ
-ค่าเข้าชมสถานที่และค่าผ่านทาง
-บริการ น้ำดื่ม น้ำอัดลม ผ้าเย็น อาหารว่าง ยาปฐมพยาบาล และ หมวก
-ประกันอุบัติเหตุเดินทาง ท่านละ 1,000,000 บาท ตามเงื่อนไขกรมธรรม์
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
-ค่ารถ รับ-ส่ง จ.อุบลราชธานี
-บริการเสริมพิเศษ คาราโอเกะ+นาฏศิลป์ลาว
-ค่า VAT ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % หัก ณ. ที่จ่าย 3 % กรณีต้องการใบเสร็จ
-ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ และค่าใช้จ่ายส่วนตัว
-ค่าทิป พนักงาน ไกด์ พนักงานขันรถ
เตรียมเดินทาง
ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ร่วมเดินทาง ที่มีอายุการใช้งานเหลือก่อนเดินทาง6เดือน และมีหน้าว่างอย่างน้อย2หน้าส่งก่อนเดินทางอย่างน้อย10วันทำการ
เงินมัดจำล่วงหน้า 20% โอนเข้าบัญชี นายณรงค์ฤทธิ์ จันทร์ทรง
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยช่องเม็ก บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 896-2-05363-4
ธนาคารกรุงไทย สาขาโขงเจียม บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 338-0-17263-4
ธนาคารกสิกรไทย สาขาพิบูลมังสาหาร บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 361-2-45730-0
ธนาคารกรุงศรี สาขาพิบูลมังสาหาร บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 081-1-67098-2
(บริษัทอุ้มรักทัวร์ จำกัด นายณรงค์ฤทธิ์ จันทร์ทรง (คุณอุ้ม)
Tel. 084-513-5577,062-4969889,083-734-7555,045-476-219 Tel/Fax 045-476199
เลขที่ 476 ม.13 ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ. อุบลราชธานี 34350
Email:aumlucktour@hotmail.co.th www.aumlucktour.com https://www.aumlucktour.net
31 ม.ค. 2566